หมีขั้วโลก (Polar Bear) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นนักล่าแห่งดินแดนขั้วโลกเหนือที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพชีวิตกลางน้ำแข็ง ธรรมชาติสร้างให้หมีขาวแตกต่างจากหมีพันธุ์อื่น คือ มีขนคลุมอุ้งเท้า นิ้วเท้าสั้น เล็บโค้งงอเพื่อ ให้ยึดน้ำแข็งได้อย่างมั่นคง ในขณะเดียวกันก็มีท่อนขาขนาดใหญ่เพื่อเฉลี่ยน้ำหนักมหาศาล เพื่อสามารถเดินบนน้ำแข็งบางๆ ได้
หมีขั้วโลก ตัวผู้หนักถึง 775-1,500 ปอนด์ ส่วนตัวเมียหนัก 330-500 ปอนด์ มีถิ่นที่อยู่บริเวณอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ แต่ไม่มีหลักแหล่งที่แน่นอน พบในอลาสกาแคนาดา รัสเซีย เดนมาร์ก (กรีนแลนด์) และนอร์เวย์ เป็นสัตว์สปีชีส์หนึ่งของโลกที่กำลังถูกคุกคาม ปัจจุบันหมีขั้วโลกมีจำนวนประมาณ 22,000-27,000 ตัว อยู่ในแคนาดามากที่สุดคือราว 15,000 ตัว ซึ่งการดำรงชีวิตให้อยู่รอดในแถบอาร์กติกที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น ทำให้สัตว์หลายๆ ชนิดใช้เวลายาวนานในการวิวัฒนาการจนมีขนสีขาว หรือเปลี่ยนสีขนในฤดูหนาวจนกลมกลืนกับหิมะ ซึ่งเป็นการพรางตัวที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และหาอาหาร ดังเช่นกระต่ายป่าสีขาว (white hare) , นกนางนวลอาร์กติก (Arctictern) , ตัววีเซล (weasel) , ตัวเลมมิง (lemming) , หมาจิ้งจอกอาร์กติก (Arctic fox)
โดยเฉพาะหมีขั้วโลก (polar bear) ที่ใช้เวลาประมาณ 2 แสนปี พัฒนา และมีวิวัฒนาการจากหมีสีน้ำตาลมาเป็นหมีขาวในทุกวันนี้
หมี ขั้วโลกหรือที่นักวิทยาศาสตร์บางคนระบุว่ามันคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์แห่งมหาสมุทรที่ชอบใช้ชีวิตอยู่ในน้ำมากกว่าบนบกหมีชนิดนี้อาศัยอยู่ในดินแดนน้ำแข็งที่หนาวเหน็บเกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจ
ที่ราบทุนดร้าแห่งอาร์คติค มีพื้นที่ 5 ตารางไมล์ ที่นี่มีฤดูหนาวกินระยะเวลานานถึง 4 เดือน ซึ่งอุณหภูมิจะลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงลบ 50องศาเซลเซียล ลมจะพัดผ่านผืนหิมะอันว่างเปล่าด้วยความเร็วประมาณ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่วนผืนน้ำถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่ลึกกว่า6 ฟุตท่ามกลางความหนาวเหน็บนี้ หมีขั้วโลกใช้เวลายาวนานกว่าสองแสนปี เพื่อพัฒนาศิลปะแห่งการอยู่รอดในดินแดนแห่งนี้
แต่การปรับตัวบางอย่างถูกคิด ค้นมาหลอกเราได้อย่างชาญฉลาด เช่น ขนสีขาวราวหิมะอันแสนสวยที่แลดูขาวสะอาดและละเอียดของมัน แท้จริงแล้วขนของมันไม่ใช่สีขาวเลยแม้แต่น้อย ซึ่งขนของหมีขั้วโลกนั้นเหมือนกับผ้าห่มหนาที่ทำมาจากหลอดดูดน้ำแบบละเอียด ทั้งหมดเหมือนเคลือบด้วยยาทาเล็บ แพขนจะสะท้อนแสงแดดที่ทอดลงมาบนหิมะ ทำให้มันดูเป็นสีขาวและกลืนไปกับสภาพแวดล้อม
เมื่อถึงเวลาอาหาร นักกินที่มูมมามอย่างหมีขั้วโลกจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อกินอย่างสะอาดการ ดูแลตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ของหมีขั้วโลก พวกมันสนใจกับการดูแลตัวเองมาก และไม่แปลกที่หมีจะหยุดกินแล้วทำความสะอาดอุ้งเท้าที่เปรอะไปด้วยเลือด ก่อนจะกลับไปกินต่อแต่ที่หมีขั้วโลกทำเช่นนี้คือมีเหตุผลว่าขนที่เกรอะกรัง และสกปรกจะไม่สามารถช่วยป้องกันความหนาวเย็นได้ เพราะการป้องกันความหนาวคือสิ่งสำคัญต่อหมีขั้วโลก หมีมีระบบทำความร้อนสำรองใต้เส้นขน ชั้นไขมันหนาจะเก็บความร้อนไว้ภายในร่างกายซึ่งหมีขั้วโลกจะรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติอยู่ตลอดเวลา
ในบางครั้ง ขนที่หนาและละเอียดของมัน รวมถึงชั้นไขมันอาจทำให้ความร้อนในตัวสูงเกินไปจนอาจเสียชีวิตได้ ทำให้พวกมันต้องใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้า งานวิจัยต่างๆ แสดงว่าการเดินช้าๆ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของพวกมันได้ เจ้าหมีจะเดินไปบนน้ำแข็งและหิมะด้วยความเร็วเพียง 3 – 4 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
หมีขั้วโลกครองสถิติเท้าใหญ่ ที่สุดในบรรดาตระกูลหมีทั้งหมด อุ้งเท้าขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาพิเศษสำหรับน้ำแข็งโดยเฉพาะ เท้าของมันปกคลุมไปด้วยปุ่มคล้ายนิ้วที่เรียกว่า “พาพิเล” ซึ่งช่วยทำให้ฝ่าเท้ามีลักษณะเหมือนกระดาษทราย ทำให้มีแรงฝืดบนน้ำแข็งอันแสนลื่นได้ เท้ากึ่งพังผืดทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างง่ายดาย อุ้งเท้าหนาทำหน้าที่เปรียบเสมือนไม้พาย ผลักดันร่างกายอันใหญ่โตผ่านน้ำ ฝ่าเท้าหลังบังคับทิศทางเสมือนหางเสือกรงเล็บจะจิกลงไปบนแผ่นน้ำแข็งช่วยให้ มันยกตัวขึ้นจากน้ำได้ พวกมันไม่มีปัญหาในการเกาะแพน้ำแข็งเพื่อเดินเช่นกัน เท้าใหญ่ของมันจะช่วยในการกระจายน้ำหนักเหนือแผ่นน้ำแข็งบางๆ และถ้าหากน้ำแข็งบางเกินไปพวกมันจะนอนราบไปบนพื้นน้ำแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแตกหัก
ที่ราบทุนดร้าแห่งอาร์คติค มีพื้นที่ 5 ตารางไมล์ ที่นี่มีฤดูหนาวกินระยะเวลานานถึง 4 เดือน ซึ่งอุณหภูมิจะลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงลบ 50องศาเซลเซียล ลมจะพัดผ่านผืนหิมะอันว่างเปล่าด้วยความเร็วประมาณ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่วนผืนน้ำถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่ลึกกว่า6 ฟุตท่ามกลางความหนาวเหน็บนี้ หมีขั้วโลกใช้เวลายาวนานกว่าสองแสนปี เพื่อพัฒนาศิลปะแห่งการอยู่รอดในดินแดนแห่งนี้
แต่การปรับตัวบางอย่างถูกคิด ค้นมาหลอกเราได้อย่างชาญฉลาด เช่น ขนสีขาวราวหิมะอันแสนสวยที่แลดูขาวสะอาดและละเอียดของมัน แท้จริงแล้วขนของมันไม่ใช่สีขาวเลยแม้แต่น้อย ซึ่งขนของหมีขั้วโลกนั้นเหมือนกับผ้าห่มหนาที่ทำมาจากหลอดดูดน้ำแบบละเอียด ทั้งหมดเหมือนเคลือบด้วยยาทาเล็บ แพขนจะสะท้อนแสงแดดที่ทอดลงมาบนหิมะ ทำให้มันดูเป็นสีขาวและกลืนไปกับสภาพแวดล้อม
เมื่อถึงเวลาอาหาร นักกินที่มูมมามอย่างหมีขั้วโลกจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อกินอย่างสะอาดการ ดูแลตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ของหมีขั้วโลก พวกมันสนใจกับการดูแลตัวเองมาก และไม่แปลกที่หมีจะหยุดกินแล้วทำความสะอาดอุ้งเท้าที่เปรอะไปด้วยเลือด ก่อนจะกลับไปกินต่อแต่ที่หมีขั้วโลกทำเช่นนี้คือมีเหตุผลว่าขนที่เกรอะกรัง และสกปรกจะไม่สามารถช่วยป้องกันความหนาวเย็นได้ เพราะการป้องกันความหนาวคือสิ่งสำคัญต่อหมีขั้วโลก หมีมีระบบทำความร้อนสำรองใต้เส้นขน ชั้นไขมันหนาจะเก็บความร้อนไว้ภายในร่างกายซึ่งหมีขั้วโลกจะรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติอยู่ตลอดเวลา
ในบางครั้ง ขนที่หนาและละเอียดของมัน รวมถึงชั้นไขมันอาจทำให้ความร้อนในตัวสูงเกินไปจนอาจเสียชีวิตได้ ทำให้พวกมันต้องใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้า งานวิจัยต่างๆ แสดงว่าการเดินช้าๆ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของพวกมันได้ เจ้าหมีจะเดินไปบนน้ำแข็งและหิมะด้วยความเร็วเพียง 3 – 4 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
หมีขั้วโลกครองสถิติเท้าใหญ่ ที่สุดในบรรดาตระกูลหมีทั้งหมด อุ้งเท้าขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาพิเศษสำหรับน้ำแข็งโดยเฉพาะ เท้าของมันปกคลุมไปด้วยปุ่มคล้ายนิ้วที่เรียกว่า “พาพิเล” ซึ่งช่วยทำให้ฝ่าเท้ามีลักษณะเหมือนกระดาษทราย ทำให้มีแรงฝืดบนน้ำแข็งอันแสนลื่นได้ เท้ากึ่งพังผืดทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างง่ายดาย อุ้งเท้าหนาทำหน้าที่เปรียบเสมือนไม้พาย ผลักดันร่างกายอันใหญ่โตผ่านน้ำ ฝ่าเท้าหลังบังคับทิศทางเสมือนหางเสือกรงเล็บจะจิกลงไปบนแผ่นน้ำแข็งช่วยให้ มันยกตัวขึ้นจากน้ำได้ พวกมันไม่มีปัญหาในการเกาะแพน้ำแข็งเพื่อเดินเช่นกัน เท้าใหญ่ของมันจะช่วยในการกระจายน้ำหนักเหนือแผ่นน้ำแข็งบางๆ และถ้าหากน้ำแข็งบางเกินไปพวกมันจะนอนราบไปบนพื้นน้ำแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแตกหัก
หมีเพศเมียที่ตั้งท้องต้องขุดโพรงสำหรับคลอดลูกในฤดูใบไม้ร่วง ลูกหมีมักถือกำเนิดในเดือนธันวาคมและมกราคม ตอนเกิดพวกมันจะมีน้ำหนักเพียงหนึ่งปอนด์เท่านั้น และจะใช้เวลา 3 – 4 เดือน ในการกินและนอนหลับเคียงข้างแม่ แต่ไม่ใช่การจำศีล เพราะหมีขั้วโลกไม่มีการจำศีล
หมีขั้วโลกจะกินเกือบทุกสิ่ง มันกินวอลรัส สุนัขจิ้งจอก นกทะเล ในบางครั้งฝูงวาฬเบลูก้าจะว่ายเข้ามาติดในช่องว่างระหว่างแพน้ำแข็งทำให้หมีหาอาหารง่าย หมีขาวร่างใหญ่กินอาหารหลากชนิด แต่สัตว์หลากชนิดเหล่านั้นต้องอาศัยหมีเหมือนกัน เช่นสุนัขจิ้งจอกขั้วโลกมันจะคอยติดตามหมีอยู่เสมอเพื่อหาเศษอาหารที่เหลือ นอกจากหมีขั้วโลกจะกินเนื้อสัตว์แล้ว มันยังต้องหาแหล่งแร่ธาตุและวิตามินเพื่อพวกมันจะได้กินอาหารครบหมู่ แม่หมีจะคอยแสดงให้ลูกเห็นถึงประโยชน์ของการกินผักเขียวตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นเพราะเจ้าตัวเล็กชอบที่จะเลือกกิน
หมีขั้วโลกทั้งเพศผู้และเพศ เมีย ต่างเป็นนักพเนจรที่โดดเดี่ยว แยกห่างจากกันและกัน นอกเหนือจากเวลาที่พวกมันมาชุมนุมกันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น ในฤดูผสมพันธุ์ หมีที่สูง10 ฟุต โตเต็มที่อาจอยู่ได้นาน 30 ปี ตลอดชีวิตของหมีขั้วโลกนั้น การอดทน การออกล่าการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด นี่คือวิถีแห่งราชาน้ำแข็ง วิถีแห่งหมีขั้วโลกอย่างแท้จริง
หมีขั้วโลกจะกินเกือบทุกสิ่ง มันกินวอลรัส สุนัขจิ้งจอก นกทะเล ในบางครั้งฝูงวาฬเบลูก้าจะว่ายเข้ามาติดในช่องว่างระหว่างแพน้ำแข็งทำให้หมีหาอาหารง่าย หมีขาวร่างใหญ่กินอาหารหลากชนิด แต่สัตว์หลากชนิดเหล่านั้นต้องอาศัยหมีเหมือนกัน เช่นสุนัขจิ้งจอกขั้วโลกมันจะคอยติดตามหมีอยู่เสมอเพื่อหาเศษอาหารที่เหลือ นอกจากหมีขั้วโลกจะกินเนื้อสัตว์แล้ว มันยังต้องหาแหล่งแร่ธาตุและวิตามินเพื่อพวกมันจะได้กินอาหารครบหมู่ แม่หมีจะคอยแสดงให้ลูกเห็นถึงประโยชน์ของการกินผักเขียวตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นเพราะเจ้าตัวเล็กชอบที่จะเลือกกิน
หมีขั้วโลกทั้งเพศผู้และเพศ เมีย ต่างเป็นนักพเนจรที่โดดเดี่ยว แยกห่างจากกันและกัน นอกเหนือจากเวลาที่พวกมันมาชุมนุมกันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น ในฤดูผสมพันธุ์ หมีที่สูง10 ฟุต โตเต็มที่อาจอยู่ได้นาน 30 ปี ตลอดชีวิตของหมีขั้วโลกนั้น การอดทน การออกล่าการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด นี่คือวิถีแห่งราชาน้ำแข็ง วิถีแห่งหมีขั้วโลกอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น